การวิเคราะห์รายงานเศรษฐกิจมหภาค:

มีเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจมหภาคไม่กี่เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันศุกร์ แต่แทบทุกเหตุการณ์สำคัญทั้งนั้น เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดคือรายงาน NonFarm Payrolls อัตราการว่างงาน และระดับค่าจ้างในสหรัฐอเมริกา ข้อมูลเหล่านี้เป็นสิ่งที่นักลงทุนตลาดได้รอคอยมาตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ในช่วงสี่วันแรก ดอลลาร์ได้รับแรงสนับสนุนที่มั่นคงจากภูมิหลังทางเศรษฐศาสตร์มหภาคและพื้นฐาน แต่ควรสังเกตว่าปัจจุบัน Federal Reserve ตัดสินใจโดยพิจารณาจากสภาพของตลาดแรงงานและการว่างงานมากกว่าเงินเฟ้อ หากสองรายงานนี้แสดงผลลัพธ์ที่ไม่เป็นที่พอใจในวันนี้ ดอลลาร์สหรัฐอาจสูญเสีย "ทุกสิ่งที่มันได้มาอย่างยากลำบาก" ได้อย่างรวดเร็ว

การวิเคราะห์เหตุการณ์พื้นฐาน:

ในบรรดาเหตุการณ์สำคัญของวันศุกร์ การกล่าวสุนทรพจน์โดยรองประธานธนาคารกลางยุโรป หลุยส์ เด กวินดอส และเพื่อนร่วมงานหลายคนของเขาโดดเด่นชัด ในสหรัฐอเมริกาจะมีการกล่าวสุนทรพจน์โดยตัวแทนของธนาคารกลางสหรัฐด้วย อย่างไรก็ตาม วันนี้ตลาดจะไม่ให้ความสำคัญกับเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางมากนักแต่จะให้ความสนใจกับข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคของสหรัฐฯ นอกจากนี้ ในวันจันทร์ คริสติน ลาการ์ด และเจอโรม พาวเวลล์ ได้ให้คำตอบอย่างครอบคลุมเกี่ยวกับสิ่งที่คาดหวังจาก ECB และ Fed ในการประชุมครั้งต่อไปของพวกเขา สำหรับมุมมองของพวกเขาที่จะเปลี่ยนแปลง จำเป็นต้องมีข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคใหม่

ข้อสรุปทั่วไป:

ในวันซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์ ยูโรและปอนด์อาจยังคงลดลงต่อไป แต่ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับรายงาน NonFarm Payrolls และการว่างงานจากสหรัฐฯ วันนี้ การเคลื่อนไหวในระหว่างการซื้อขายของตลาดยุโรปอาจอ่อนแอ แต่ความผันผวนสูงอาจเกิดขึ้นระหว่างการซื้อขายในตลาดสหรัฐฯ คาดการณ์ไม่ได้ว่าคู่เงินจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางใดในครึ่งหลังของวัน สิ่งที่ทำได้คือรอให้รายงานถูกประกาศ

กฎพื้นฐานของระบบการซื้อขาย:

1. ความแข็งแกร่งของสัญญาณถูกกำหนดโดยระยะเวลาที่ใช้ในการสร้างสัญญาณ (กระดอนหรือลอดผ่านระดับ) ยิ่งใช้เวลาน้อยเท่าไร สัญญาณก็ยิ่งแข็งแกร่งเท่านั้น
2. หากมีการเปิดคำสั่งซื้อหลายรายการรอบระดับใดระดับหนึ่งบนฐานของสัญญาณเท็จ ควรละเว้นสัญญาณที่ตามมาทั้งหมดจากระดับนั้น
3. ในตลาดที่แบนเรียบ คู่เงินใดๆ สามารถสร้างสัญญาณเท็จได้มากมายหรือไม่มีสัญญาณเลยก็ตาม ในกรณีใดๆ ที่มีสัญญาณแรกของตลาดแบนเรียบ จะดีกว่าหยุดการซื้อขาย
4. ควรเปิดตำแหน่งการซื้อขายในช่วงตั้งแต่การเริ่มต้นการซื้อขายของตลาดยุโรปจนถึงกลางการซื้อขายของตลาดสหรัฐฯ หลังจากนั้นควรปิดธุรกรรมทั้งหมดด้วยตนเอง
5. ในกรอบเวลาหนึ่งชั่วโมง แนะนำให้ซื้อขายตามสัญญาณของ MACD indicator เฉพาะเมื่อมีความผันผวนที่ดีและแนวโน้มที่ได้รับการยืนยันโดยเส้นแนวโน้มหรือช่องทางแนวโน้ม
6. หากมีสองระดับใกล้เคียงกันเกินไป (ระหว่าง 5 ถึง 20 จุด) ควรพิจารณาว่าเป็นโซนสนับสนุนหรือต้านทาน
7. เมื่อผ่าน 15-20 จุดในทิศทางที่ตั้งใจไว้ ควรตั้ง Stop Loss ที่จุดคุ้มทุน

สิ่งที่อยู่บนกราฟ:

ระดับราคาสนับสนุนและต้านทาน: ระดับเหล่านี้ใช้เป็นเป้าหมายเมื่อเปิดคำสั่งซื้อหรือขาย และยังสามารถใช้เป็นจุดกำหนดระดับ Take Profit ได้

เส้นแดง: เป็นเส้นช่องทางหรือเส้นแนวโน้มที่แสดงแนวโน้มปัจจุบันและบ่งบอกทิศทางการซื้อขายที่ควรจะเป็น

MACD Indicator (14,22,3): Histogram และเส้นสัญญาณทำหน้าที่เป็นตัวบ่งชี้เสริมที่สามารถใช้เป็นแหล่งที่มาของสัญญาณการซื้อขายได้

การกล่าวสุนทรพจน์และรายงานสำคัญ (พบได้ในปฏิทินข่าวอยู่เสมอ) สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดของคู่เงินอย่างมาก ดังนั้นการซื้อขายควรทำด้วยความระมัดระวังสูงสุดในระหว่างที่มีการประกาศออกมา หรือคุณอาจเลือกออกจากตลาดเพื่อหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคาที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งสวนทางกับการเคลื่อนไหวที่มาก่อนหน้า

สำหรับผู้เริ่มต้นซื้อขายในตลาด Forex: สิ่งสำคัญคือจำไว้ว่าไม่ทุกการซื้อขายจะมีกำไร การพัฒนากลยุทธ์อย่างชัดเจนและการฝึกจัดการเงินเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในระยะยาวในการซื้อขาย